พักหลังมานี่ เขากับน้องก็ไม่ได้ติดต่อพูดคุยกันเลย ..
คำกล่าวของน้องเพื่ออธิบายเรื่องนี้ คือ
‘พี่มนกับพี่โอเลี้ยงข้าวและพาดื่มต่อ’ ไม่ก็ ‘ไปนอนค้างบ้านพี่โอนะ เพราะจะได้ไปทำงานได้ง่าย’
และเนื่องด้วยความสงสัยในตอนแรกๆที่น้องบอกอย่างงั้น
ผมจึงเดินไปแถวบริเวณที่น้องทำงาน เพื่อดูว่าเรื่องนี้เท็จจริงแค่ไหน
ไม่ใช่ไม่เชื่อใจนะ
แค่อยากพิสูจน์เรื่องนี้เฉยๆ ผมมั่นใจว่าผมรักน้องมากจริงๆ
และใช่ มันก็เป็นไปตามที่ผมคิด
แม้ว่าจะไม่อยากให้มันเกิดมากแค่ไหน
ผมพบร่างบางกำลังเดินไปกับชายร่างสูงโปร่งที่เป็นศิลปินโปรดหลายๆคน
‘ เป๊ก ผลิตโชค ’
ในตอนนั้นผมถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วรอจนกระทั่งร่างบางกลับมาบ้านในวันถัดมาและถามไถ่ถึงเรื่องนี้
น้องแกก็ปฏิเสธทุกอย่าง บอกว่าพี่เป๊กมาหาเฉยๆ
แต่พอผมเลื่อนภาพไปยังภาพที่เป๊กมันโอบเอวน้องหรือภาพที่เป๊กก้มหน้าลงมาจูบที่แก้มน้อง
แค่นั้นคนตัวเล็กกว่าก็เงียบ ไม่อธิบายใดๆทั้งสิ้น ถึงผมจะซักถามมากเท่าใด คนร่างบางกลับเงียบและเดินกลับขึ้นห้องตัวเองหนีจากผมไป ทำให้ผมได้แต่มองร่างคนตรงหน้า
หลังจากเหตุการณ์นั้น
ผมกับน้องก็คุยกันน้อยลง น้องเองก็ไม่กลับมาบ้าน ถึงกลับก็ดึกมากจนผมที่นั่งรอก็รอเก้อ
ไม่ก็หลังจากน้องกลับมาก็จะหนีหน้าผมขึ้นไปยังห้องส่วนตัวของน้องเอง
ทำให้ไม่ได้คุยกันเลยตลอด2เดือนที่ผ่านมา
เหมือนความรักของผมกับน้องมันกำลังน้อยลงเรื่อยๆ
จากแต่ก่อนที่เต็ม100 ตอนนี้มันอาจจะเหลือไม่ถึง20 …
ผมเก็บความรู้สึกอัดอั้นใจไว้ ได้แต่รอคอยให้น้องกลับมาบ้าน เพื่อที่จะได้เริ่มต้นคุยแก้ปัญหานี้กันใหม่ แต่จนแล้วจนรอด น้องก็ไม่กลับมาที่บ้านอีกเลย หลังจากที่ผมคาดคั้นจากน้องครั้งนั้น แต่ผมก็ยังนั่งรอคอยอยู่อย่่างงั้น
และในที่สุดความอดทนของผมมันก็หมด ในวันทึ่ครบรอบ2ปีที่ผมคบกับน้อง วันนั้นผมรีบเคลียร์งานรีบกลับมาบ้าน เพื่อซื้อเค้กกลับมาบ้าน พร้อมกับไวน์ 1-2ขวด รีบตรงดิ่งกลับมาที่บ้าน เพราะมีความหวังว่าน้องคงจะจำได้และรีบกลับมาฉลองกันตามเดิม ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่ได้คุยกันเจอหน้ากันเลยก็ตาม
น้องแกอาจจะเบื่อแล้วก็ได้นี่หน่า
อาจจะกลับมาหาผมตามเดิมแล้วก็ได้
หลังจากผมกลับมาถึงบ้าน
ก็พบรถยนต์ที่คุ้นเคยจอดอยู่หน้าบ้าน และเมื่อผมมองดีๆ ก็ปรากฏว่าเป็นรถของเจ้าตัวจริงๆ
ผมรีบถือของแล้ววิ่งเข้าบ้านด้วยรอยยิ้มร่าเริง
เพราะน้องกลับมา ก่อนจะกวาดสายตามองหน้าร่างบางที่ผมเฝ้ารอ
‘ตึก ตึก’
เสียงแปลกประหลาดดังขึ้นที่บริเวณบันไดขึ้นไปชั้นสอง
ผมรีบวางข้าวของลงบนโต๊ะก่อนจะเดินไปที่เกิดเสียงดังกล่าวโดยหวังว่าจะได้พบกับน้อง
“ทอม---”
……
ร่างบางที่กำลังเดินลงมาจากบันไดลงมาด้วยกระเป๋าเดินทางใบขนาดเท่าตัว พร้อมกับข้าวของอีก2-3ชิ้น โดยมีกระเป๋าใบนึงซิปได้เปิดไว้ ทำให้ผมรู้ว่าของข้างในคือเสื้อผ้าชองน้องที่เคยอยู่บ้านหลังนี้ …
“ พี่…”
“ ทอม …
จะไปไหนหน่ะ …. ? ” ผมพูดตะกุตะกะกับภาพที่เห็นตรงหน้า..
“ ผม ... ”
‘ กริ้งงงงงงงงงง ’
เสียงกระดิ่งดังขึ้นที่กระเป๋าด้านซ้ายของคนตัวเล็ก
คนตรงหน้าดึงโทรศัพท์ตัวต้นเสียงออกมา ก่อนจะมองไปยังหน้าจอการโทรเข้าดังกล่าวก่อนจะลุกลี้ลุกลนเก็บโทรศัพท์นั้นลงกระเป๋า
แต่ด้วยที่ผมมองเหตุการณ์นี้ตั้งแต่ต้น
ทำให้มือผมรีบคว้าโทรศัพท์เครื่องนั้นมาทันก่อนที่อีกฝ่ายจะเก็บลงกระเป๋าไป
หน้าน้องตื่นตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า
ส่วนผมก็ผลิกโทรศัพท์นั้นขึ้นมาดูว่าใครกันที่โทรมาหาแล้วน้องต้องรีบเก็บโทรศัพท์เพื่อไม่ให้ผมเห็นขนาดนี้
‘พี่เป๊ก’
ผมก้มมองโทรศัพท์ก่อนจะเงยหน้ามองหน้าน้องที่ทำหน้าอึกอัก ก่อนจะเลื่อนมือเปิดการคุยกับคนที่โทรมา
“ ทอมค้าบบบบ เสร็จยังงง พี่รออยู่ที่คอนโดแล้วน้า
พี่คิดถึงทอมจังงง รีบมาน้า รักทอมที่สุดเลย ”
เท่านั้นแหละ ความอดทนของผมก็ขาดสะบั้น.. ทำให้วันนั้นเป็นวันครบรอบที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ผ่านมา
‘ ตึง ! ’
เสียงเครื่องเหล็กเครื่องนึงถูกขว้างทิ้งลงไปบนพื้นเสียงดังด้วยแรงที่มาจากความโกรธของผม
“ ทอม นี่มันหมายความว่ายังไง!?
”
“ อ้ออออ ตลอดมานี่คือหนีไปอยู่กับไอ้เป๊กมันงั้นหรอ !? ห่ะ !? ทอม !”
“ …... ”
ผมเริ่มที่จะควบคุมตัวเองไม่อยู่
ยิ่งการที่น้องเงียบใส่แบบนี้ด้วยแล้ว ..
ใจผมมันหน่วง เจ็บกับเรื่องที่เกิดมาก
ผมจึงเริ่มระบายออกมาด้วยคำพูดต่างๆนาๆที่ร่ายยาวใส่น้อง
“ทิ้งให้พี่รอทอมอยู่คนเดียว ส่วนตัวเองก็หนีไปอยู่กับคนอื่น! หลงมันหัวปักหัวปำเลยสิท่า ! รู้สึกดีละสิ หนีตามผู้ชายคนอื่นไปยังงี้! ไอ้น้องไม่รักดี
! ไอ้เป๊กก็ด้วยแย่งของของคนอื่น มันดีนักหรอวะ! ”
“ พี่เอ๊ะ ! พี่จะมาว่าพี่เป๊กยังงี้ไม่ได้นะ! ”
“ โฮ่ มีปกป้องกันด้วย ทำไมล่ะ ไอ้เป๊กมันดีตรงไหน หา! มันเปย์หรอไง มันบำเรอให้ดีหรอไง ถึงได้หลงหัวปักหัวปำไปอยู่กับมันเป็นเดือนยังงี้!! ”
“ พี่เอ๊ะ !!! ”
ความเงียบเข้าปกคลุม ทั้งผมและน้องต่างก็จ้องมองกันละกันด้วยความโกรธ
คนตรงหน้าผมขบฟันเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นเสียงดังขึ้นจากคำพูดที่ผมพูดไปเมื่อกี้
ผมเองด้วยอารมณ์ที่ครุกกรุ่นจากเรื่องเมื่อกี้ ทำให้ไร้การสนทนาที่ไปทางแง่ดี
“ ก็ดี หลงรักมันมากนักก็ออกไป!!
ไม่ต้องกลับมาอีก! ไปอยู่กับมันเลย!! ”
หลังจากพูดจบด้วยความโมโหผมก็จับกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกจากมือของน้อง
ก่อนจะยกมันขว้างออกไปทางประตูบ้านอย่างแรง ทำให้เกิดเสียงดังโครมครามเกิดขึ้น
น้องเองหลังจากที่เห็นผมทำดังนั้น ก็จ้องหน้ามาที่ผมด้วยสายตาเศร้าสอย ก่อนจะหลบตาผม
เดินเงียบๆไปยังกระเป๋าที่ถูกขว้างไป แล้วจับให้มันตั้งขึ้นใหม่
ก่อนจะเดินลากกระเป๋าออกไปเงียบๆ ทิ้งให้ผมที่ยืนอยู่กลางบ้านค่อยๆได้สติกลับมาแล้วรีบวิ่งไปที่หน้าบ้าน
เรียกชื่อคนที่ขับรถออกจากบ้านไปเพียงเสี้ยววินาที ..
รถคันคุ้นเคยถูกขับออกจากที่ที่เคยจอดออกไปด้วยความเร็ว
ทำให้ผมที่รีบวิ่งออกมาได้แต่ยืนมองรถดังกล่าวถูกขับออกไป ผมยืนมองร่างของรถที่ผมจ้องมองจนลับตาหายไปด้วยความรู้สึกที่หน่วงในใจและความรู้สึกเสียใจ
หลังจากนั้น ทั้งผมและน้องเองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย … ผมเลือกที่จะกดซ่อนช่องทางการติดต่อของน้อง ไม่ให้ผมเห็นได้อีก แต่ทำใจที่จะกดลบแชทหรือบล็อกน้องไม่ลง ในบางครั้งผมก็จะเห็นน้องออนไลน์โซเชี่ยวอยู่เหมือนกัน แต่ก็ปล่อยทิ้งไว้ไม่นาน น้องเองก็จะออฟไลน์ไป จนกระทั่งเวลาผ่านไปตั้งแต่เกิดเรื่อง การสนทนาระหว่างผมกับน้องก็ไม่เกิดขึ้นอีก
หลังจากผ่านมาเป็นเวลานาน
ด้วยเวลาทำให้ความเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้นค่อยๆเบาบางลง
และเริ่มย้ายเข้าไปอยู่ด้านลึกของใจ ทำให้ผมเฉยชากับเรื่องนี้ไป ผมทำหลายๆอย่า
เพื่อจะลืมเรื่องราวนั้นไป
รับงานเข้ามามากกว่าเดิม เที่ยวกลางคืนกับเหล่าพ้องเพื่อนเพื่อลืมเหตุการณ์ต่างๆ
ใช่ ทั้งๆที่ผมลืมน้องไปได้แล้ว …
แต่เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นในตอนนี้ที่ผมกำลังนั่งรถตู้ไปยังงานที่ต่างจังหวัด
ด้วยความว่างก็นั่งไถ่มือถือเข้าแอพสีชมพูรูปกล้องเข้าไป
นั่งไถ่ไปเรื่อยๆก็ได้พบกับโพสต์นึงซึ่งเป็นโพสต์ที่ทำเอาผมเจ็บปวดรวดร้าวภายในใจ..
tom_reckless โพสต์ภาพ
ภาพนั้นเป็นภาพมือขาวบางมือหนึ่งกับร่างเงาที่ทำท่าเหมือนคุกเข่าลงไปข้างนึงในท่าขอแต่งงานก่อนจะยื่นมือมาจับมือขาวนั้นพร้อมแหวนเงินสวยวงนึงที่กำลังเลื่อนสอดเข้ามายังนิ้วนางมือซ้ายของมือเรียวมือหนึ่ง ก่อนจะพบว่ามือของอีกคนน้องได้แท็กไอจีของผลิตโชคไว้ พร้อมกับแคปชั่นสั้นๆที่ทำผมเจ็บปวดภายในใจเหลือเกิน ..
tom_reckless ผมตกลงครับ ขอบคุณที่รักผมนะครับพี่เป๊ก
ภายใต้ภาพนั้นต่างก็พบบรรดาเหล่าแฟนคลับต่างๆของทอมและเป๊กเข้ามายินดีกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างล้นหลาม
ทั้งๆที่ผ่านมาเพียงแค่10นาทีเท่านั้น
จากภาพจึงไม่มีเหตุผลที่ผมยังจำเป็นต้องอยู่ให้น้องเขาเห็นอีกต่อไป..
ผมจึงคอมเม้นต์ใต้ภาพนั้นด้วยความรู้สึกหน่วงในใจ.. พยายามพิมพ์ให้เหมือนปกติก่อนจะกดตกลงส่งไป
หลังจากนั้นกดปิดโทรศัพท์ทันที
แม้ว่าคอมเม้นต์ของผมนั้นอาจจะยังโพสต์ไม่เสร็จก็ตาม
ผมนั่งพิงผนักเก้าอี้
มองไปยังวิวรอบๆในที่ที่รถตู้ขับผ่านด้วยความรู้สึกโหว่งในใจ ผมหลับตา
ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามวิวบรรยากาศรอบๆตัว นึกถึงสิ่งที่พิมลงไปในภาพของน้องกับเป๊ก…
ในที่สุด
ความจริงทุกอย่างมันก็ชัดกระจ่างแล้ว ว่าน้องได้หมดรักกับผมและรักคนๆนั้นมากกว่า
ผมก็คงได้แต่ทำใจ
ทั้งๆที่ใจก็ยังคงรักน้องเพียงคนเดียวในใจ
แต่.. ยังไงก็
‘ ยินดีด้วยนะ ’
/ฟังเพลงอ่านสอบอยู่ดีๆจู่ๆก็มีอารมณ์แต่งฟิคซะงั้น 555 ฟิคนี้เกิดจากความเพ้อเจ้อที่จู่ๆก็ผุดขึ้นมาเลย
/ฮัลโหลลล สวัสดีค้าบบบ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ยังไงก็เพิ่งแต่งฟิคครั้งแรก ถ้าภาษามันไม่ดียังไงก็ต้องกราบขออภัยด้วยนะ #กราบ ถ้ามีอะไรอยากจะบอกอยากจะแนะนำยังไงก็ทวิต @Hridmadra ได้ 5555
/ ตั้งใจแต่งให้หน่วงๆ .. แต่พออ่านๆไปดีๆดูไม่ค่อยหน่วงเท่าไหร่ ต้องขอโทษด้วย ; _ ; /
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบ